อีโค่พลัส แคลเซียมโบรอน ที่จะช่วยเกษตรกรแก้ปัญหา
ดอกไม่ติด ติดดอกยาก
ขนาด 1 ลิตร ราคา 189 บาท
แคลเซียมโบรอน เป็นธาตุอาหารรองที่มีความสำคัญต่อพืชทุกชนิด เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโต การพัฒนา และการสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ธาตุทั้งสองนี้มักใช้ร่วมกันในรูปของปุ๋ยแคลเซียมโบรอนเพื่อเสริมสร้างพืชในทุกช่วงการเจริญเติบโต ด้านล่างนี้คือการอธิบายประโยชน์และคุณสมบัติของแคลเซียมโบรอนในแต่ละช่วงของพืช พร้อมตัวอย่างพืชที่ได้รับประโยชน์
ช่วงงอกและพัฒนาราก ในช่วงนี้แคลเซียมนั้นจะช่วยสร้างและเสริมความแข็งแรงให้ผนังเซลล์เพิ่มการพัฒนาของรากฝอย ทำให้พืชสามารถดูดซึมสารอาหารและน้ำได้ดี ส่วนโบรอนนั้นจะช่วยกระตุ้นการแบ่งเซลล์ในบริเวณรากส่งเสริมการพัฒนาระบบรากแม้ในดินที่มีความเป็นกรดหรือดินที่มีธาตุอาหารต่ำ
ตัวอย่างพืช
พืชไร่: ข้าวโพด มันสำปะหลัง
พืชผัก: ผักสลัด หัวไชเท้า
ไม้ผล: ทุเรียน มะม่วง
ช่วงเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ ในช่วงนี้นั้นประโยชน์แคลเซียมเพิ่มความแข็งแรงของลำต้นและใบ ทำให้ทนต่อโรคและลมแรง ลดปัญหาใบไหม้และการขาดน้ำ ส่วนของโบรอนนั้นจะส่งเสริมการลำเลียงสารอาหาร เช่น น้ำตาล และแร่ธาตุช่วยในการสร้างคลอโรฟิลล์ ทำให้ใบเขียวสด เพิ่มประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสง
ตัวอย่างพืช
พืชผัก: ผักกาดขาว คะน้า
พืชไร่: อ้อย ข้าว
ไม้ผล: ส้ม ลำไย
ช่วงสร้างดอกและติดผล ในช่วงนี้แคลเซียมจะช่วยลดการหลุดร่วงของดอกและผลอ่อน และเพิ่มความสมบูรณ์ของเกสร ทำให้ดอกผสมติดง่าย ส่วนโบรอนนั้นจะส่งเสริมการพัฒนาของดอก ช่วยเพิ่มอัตราการผสมเกสร กระตุ้นการแบ่งเซลล์ในผลอ่อน ทำให้ผลพัฒนาเร็ว
ตัวอย่างพืช
ไม้ผล: ทุเรียน (ช่วยลดปัญหาดอกร่วง ผลร่วง)
พืชผัก: มะเขือเทศ พริก (ช่วยเพิ่มปริมาณดอกและผล)
พืชไร่: ข้าวโพด (ช่วยเพิ่มจำนวนฝักและเมล็ดในฝัก)
ช่วงพัฒนาผลและเมล็ดประโยชน์ ในช่วงนี้แคลเซียมจะช่วยเพิ่มคุณภาพผล เช่น ลดการแตกของผล และเพิ่มความแน่นของเนื้อผล เพิ่มอายุการเก็บรักษาของผลผลิต ส่วนโบรอนนั้นจะช่วยเพิ่มขนาดและน้ำหนักของผลส่งเสริมการพัฒนาเมล็ดให้สมบูรณ์ เช่น เพิ่มอัตราการงอกของเมล็ด
ตัวอย่างพืช
ไม้ผล: มะนาว องุ่น (ช่วยให้ผลใหญ่ เปลือกแข็งแรง)
พืชผล: แตงโม ฟักทอง (เพิ่มน้ำหนักและคุณภาพผล)
พืชไร่: ถั่วเหลือง (ช่วยพัฒนาเมล็ดในฝัก)
การทำงานร่วมกันของแคลเซียมและโบรอนช่วยให้พืชสามารถ:ทนต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งหรือมีความเครียดสูง ลดปัญหาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบลำเลียง เช่น โรคเน่าในลำต้น
ตัวอย่างพืช
พืชไร่: ข้าว มันสำปะหลัง (ช่วยลดปัญหาโรคใบไหม้)
ไม้ผล: สตรอเบอร์รี่ ทุเรียน (ช่วยลดปัญหาโรครากเน่าและผลแตก)
แคลเซียมโบรอนเป็นธาตุอาหารรองที่ส่งผลดีต่อพืชในทุกช่วงการเจริญเติบโต ช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิตและทำให้พืชมีความแข็งแรงและทนทานต่อโรคและสภาพแวดล้อมได้ดี ตัวอย่างพืชที่ได้รับประโยชน์มาก เช่น ทุเรียน ข้าวโพด มะเขือเทศ และแตงโม การใช้แคลเซียมโบรอนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชได้อย่างชัดเจน. คุณเป็นคนที่ต้องการความคุ้มค่าในการซื้อปุ๋ยใช่ไหมครับ ถ้าใช่ต้องตัวนี้เลยปุ๋ยแคลเซียมโบรอนเข้มข้นอีโคพลัส เป็นเกรดเข้มข้นได้รับทะเบียนถูกต้องจากกรมวิชาการเกษตร รู้มั้ยครับว่าพืชที่ดกผลสวยโรคน้อย ไม่ได้มาจากการใส่ปุ๋ยธาตุหลักเท่านั้นแต่ยังมีธาตุที่สำคัญอยู่เกี่ยวข้องเบื้องหลังนั่นก็คือแคลเซียมโบรอน แคลเซียมเป็นหัวใจของผนังเซลล์ช่วยให้พืชของคุณแข็งแรงมีผิวเนียนแคลเซียมยังช่วยเรื่องแบ่งเซลล์ทำให้จำนวนดอกและผลมีมากขึ้น ส่วนโบรอนจะช่วยในการออกดอกและช่วยเรื่องความหวานในช่วงเคลื่อนย้ายแป้งและน้ำตาลค่าพืชขาดโบรอนอาจมีบางต้นที่ไม่ยืดตัว กิ่งและใบชิดกันทำให้เกิดสภาพลมเชื้อราเข้าทางใบได้ง่าย เมื่อคุณพ่นปุ๋ยที่มีทั้งแคลเซียมและโบรอนมันจะทำงานร่วมกันซึ่ง จะช่วยเรื่องการติดผลเพิ่มขนาดผลลดการหลุดร่วง ของดอกและผลแก้ปัญหาผลเบี้ยวผลแตกที่สำคัญโบรอนทำให้ขั้วดอกและผลเหนียวไม่หลุดร่วงง่ายดังนั้นแคลเซียมและโบรอนจึงจำเป็นสำหรับพืชทุกชนิดไม่ใช่แค่ในไม้ผลเท่านั้น เช่น พริกมะเขือถั่วฝักยาวมะเขือพวงรวมถึงดอกไม้ออกดอกได้ดีและขั้วเหนียวดังนั้นช่วงจังหวะที่ผลไม้ขยายผลไม่ว่าจะเป็นทุเรียนเป็นผลไม้อื่นๆสิ่งที่ต้องระวังคือเปลือกจะแตกหรือหนามแตกดังนั้นแนะนำให้ผสมแคลเซียมโบรอนทุกครั้งจะทำให้ผนังเซลล์พืชแข็งแรงและยืดหยุ่นทำให้ผลไม่แตก และไม่บิดเบี้ยวที่สำคัญทำให้ผิวสวยงาม
ทำไมต้องแคลเซียมโบรอน 4:1 เนื่องจากแคลเซียมเป็นธาตุรองโบรอนเป็นธาตุเสริมการใช้งานจะใช้ร่วมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดถึงจะได้ประโยชน์ตามที่กล่าวมาอัตราส่วนที่เหมาะคือ 4:1 โบรอน 1 ส่วนจะเสริมการ ทำงานของแคลเซียมการทำงานแคลเซียม 4 ส่วนดังนั้นตัวกำหนดแคลเซียมจะทำงานได้ดีหรือไม่คือปริมาณโบรอน ดังนั้นถ้าคุณพบว่าแคลเซียมโบรอนตัวไหนดีหรือไม่ดีให้ดูปริมาณโบรอนเป็นหลักอี โคพลัสมีแคลเซียม 4:1 หมายถึงโบรอน 1 ส่วนทำให้แคลเซียมทำงานได้ 4 ส่วนดังนั้นถ้าคุณมีโบรอนแค่ 0.3 และมีแคลเซียมอยู่ 6 แสดงว่าแคลเซียมจะทำงานได้เพียง 0.18 % เพราะฉะนั้นเวลาเลือกซื้อแคลเซียมโบรอนต้องเลือกซื้อในอัตราที่ถูกต้องเช่น 4:1 หรือ 9:2 แต่ 9:2 จะมีราคาที่แพงไม่จำเป็นเพราะคุณใช้ในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นได้